บริษัทจัดหาพนักงานต่างด้าว - นำเข้าแรงงานต่างด้าว (MOU)
บริษัทจัดหาพนักงานต่างด้าว - นำเข้าแรงงานต่างด้าว (MOU) คือ บริษัทหรือหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ให้ดำเนินการจัดหาแรงงานต่างด้าวจากประเทศต้นทาง (เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเป็นไปตามระบบ MOU (Memorandum of Understanding) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของประเทศต้นทางของแรงงาน เพื่อให้มีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ความหมายของ “ระบบ MOU”
MOU หรือบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศคือ วิธีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีขั้นตอนและการควบคุมจากทั้งสองประเทศ (ประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง)
ข้อดีของการใช้แรงงานต่างด้าวแบบ MOU
- ถูกต้องตามกฎหมาย – ลดความเสี่ยงเรื่องการตรวจสอบและการจับกุม
- ปลอดภัยสำหรับแรงงาน – แรงงานได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายไทย เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ ประกันสังคม ฯลฯ
- นายจ้างไม่เสี่ยงคดีอาญา– หากใช้แรงงานผิดกฎหมาย นายจ้างอาจถูกปรับหรือจำคุก
- สามารถต่ออายุการทำงานได้ – มีระบบชัดเจนในการต่อสัญญา
หน้าที่ของบริษัทจัดหาพนักงานต่างด้าว (MOU)
บริษัทเหล่านี้จะทำหน้าที่
- ติดต่อประสานกับหน่วยงานภาครัฐไทยและประเทศต้นทาง
- คัดเลือกแรงงานตามที่นายจ้างต้องการ
- ดำเนินการขออนุญาตทำงาน (Work Permit)
- จัดการเรื่องเอกสารและการเดินทางของแรงงานเข้ามาในประเทศไทย
- ตรวจสุขภาพแรงงาน และจัดการอบรมเบื้องต้น
ขั้นตอนทั่วไปในการนำเข้าแรงงาน MOU
- นายจ้างยื่นคำร้องความต้องการแรงงานต่อกรมการจัดหางาน
- บริษัทจัดหาพนักงานประสานกับประเทศต้นทาง คัดเลือกแรงงาน
- ดำเนินการขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน
- แรงงานเดินทางเข้าประเทศไทย
- ตรวจสุขภาพ และเริ่มทำงาน
หากคุณสนใจใช้บริการจากบริษัทจัดหาแรงงาน MOU หรืออยากทราบวิธีดำเนินการในฐานะนายจ้าง/บริษัท ฉันสามารถแนะนำขั้นตอนเพิ่มเติม หรือตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานให้ได้เช่นกันครับ/ค่ะ
ทำไมแรงงานต่างด้าวต้องทำ MOU?
รวมถึงได้รับใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และวีซ่าที่เหมาะสมสำหรับการพำนักในประเทศ
1.เพื่อการจ้างงานที่ถูกกฎหมาย
2.ป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์
3.คุ้มครองสิทธิแรงงาน
การทำ MOU จัดหาพนักงาน เป็นกระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับประเทศต้นทาง (เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา) ซึ่งจะช่วยให้การจ้างงานแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
MOU (Memorandum of Understanding) คืออะไร?
- MOU คือ บันทึกความเข้าใจหรือข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่าย ซึ่งในที่นี้คือรัฐบาลไทยและรัฐบาลของประเทศต้นทางของแรงงานต่างด้าว
- วัตถุประสงค์หลักคือการกำหนดกรอบความร่วมมือในการนำเข้าและส่งออกแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- การทำ MOU ช่วยให้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจน และมีการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการของแรงงานอย่างเหมาะสม
ขั้นตอนการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU คร่าวๆ
- 1. นายจ้างยื่นขอโควตาและหนังสือขอนำเข้า (Demand Letter)
นายจ้างยื่นคำร้องที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร
- 2. ส่งเอกสารไปยังสถานทูตประเทศต้นทาง
เอกสารจะถูกส่งไปยังสถานทูตของประเทศต้นทางในประเทศไทย
- 3. จัดทำบัญชีรายชื่อ (Name List)
ประเทศต้นทางจะจัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานที่ได้รับการคัดเลือก
- 4. นำแรงงานเดินทางเข้าประเทศไทย
แรงงานเดินทางเข้าประเทศไทย ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
- 5. ตรวจลงตรา (Visa) และอบรม
แรงงานจะได้รับการตรวจลงตราวีซ่าและเข้ารับการอบรมที่ศูนย์แรกรับเข้าทำงาน
- 6. เข้าทำงาน
แรงงานเดินทางไปยังสถานประกอบการและเริ่มทำงาน
ข้อดีของการทำ MOU
- ถูกต้องตามกฎหมาย
การนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ
- คุ้มครองสิทธิและสวัสดิการ
แรงงานต่างด้าวจะได้รับการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมายแรงงาน
- ลดความเสี่ยง
ลดความเสี่ยงในการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย หรือแรงงานที่ไม่มีคุณภาพ
- กระบวนการชัดเจน
มีขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นระบบในการนำเข้าและดูแลแรงงานต่างด้าว
ข้อควรพิจารณา
- ค่าใช้จ่าย
การนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งค่าธรรมเนียม ค่าดำเนินการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- ระยะเวลา
กระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU อาจใช้เวลาพอสมควร
MOU คืออะไร? MOU (Memorandum of Understanding) ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
สำหรับนายจ้าง
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- แผนที่สถานที่ทำงาน
- หลักฐานแสดงความจำเป็นในการจ้างคนต่างด้าว
- รูปถ่ายสถานที่ทำงานและที่พัก
- หนังสือรับรองบริษัท (หากเป็นนิติบุคคล อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง (หากเป็นกิจการก่อสร้าง)
- สัญญาเช่า (หากเป็นร้านค้า)
- รายละเอียดความต้องการสวัสดิการต่าง ๆ
สำหรับลูกจ้างหรือแรงงานต่างด้าว
- สำเนาบัตรประชาชน (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนบ้านประเทศต้นทางของแรงงาน (ถ้ามี)
- รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง หรือ 2 นิ้ว
- หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริงหรือสำเนา (ถ้ามี)
- ใบอนุญาติทำงาน (Work Permit) ตัวจริงหรือสำเนา (ถ้ามี)
นอกจากนี้ ในกรณีที่แรงงานต่างด้าวไม่มีเอกสารอะไรเลย จำเป็นต้องเข้ารับการสอบถามประวัติเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น ชื่อ, ที่อยู่, อายุ, สัญชาติ เป็นต้น เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของแรงงานต่างด้าว