บริษัทจัดหาพนักงานต่างด้าว - นำเข้าแรงงานต่างด้าว (MOU)

     บริษัทจัดหาพนักงานต่างด้าว - นำเข้าแรงงานต่างด้าว (MOU) คือ บริษัทหรือหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ให้ดำเนินการจัดหาแรงงานต่างด้าวจากประเทศต้นทาง (เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม) เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยเป็นไปตามระบบ MOU (Memorandum of Understanding) ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของประเทศต้นทางของแรงงาน เพื่อให้มีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ความหมายของ “ระบบ MOU”

MOU หรือบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศคือ วิธีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีขั้นตอนและการควบคุมจากทั้งสองประเทศ (ประเทศต้นทางและประเทศปลายทาง)

ข้อดีของการใช้แรงงานต่างด้าวแบบ MOU

  1. ถูกต้องตามกฎหมาย – ลดความเสี่ยงเรื่องการตรวจสอบและการจับกุม
  2. ปลอดภัยสำหรับแรงงาน – แรงงานได้รับสิทธิ์ตามกฎหมายไทย เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ ประกันสังคม ฯลฯ
  3. นายจ้างไม่เสี่ยงคดีอาญา– หากใช้แรงงานผิดกฎหมาย นายจ้างอาจถูกปรับหรือจำคุก
  4. สามารถต่ออายุการทำงานได้ – มีระบบชัดเจนในการต่อสัญญา

หน้าที่ของบริษัทจัดหาพนักงานต่างด้าว (MOU)

บริษัทเหล่านี้จะทำหน้าที่

  • ติดต่อประสานกับหน่วยงานภาครัฐไทยและประเทศต้นทาง
  • คัดเลือกแรงงานตามที่นายจ้างต้องการ
  • ดำเนินการขออนุญาตทำงาน (Work Permit)
  • จัดการเรื่องเอกสารและการเดินทางของแรงงานเข้ามาในประเทศไทย
  • ตรวจสุขภาพแรงงาน และจัดการอบรมเบื้องต้น

ขั้นตอนทั่วไปในการนำเข้าแรงงาน MOU

  1. นายจ้างยื่นคำร้องความต้องการแรงงานต่อกรมการจัดหางาน
  2. บริษัทจัดหาพนักงานประสานกับประเทศต้นทาง คัดเลือกแรงงาน
  3. ดำเนินการขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน
  4. แรงงานเดินทางเข้าประเทศไทย
  5. ตรวจสุขภาพ และเริ่มทำงาน

หากคุณสนใจใช้บริการจากบริษัทจัดหาแรงงาน MOU หรืออยากทราบวิธีดำเนินการในฐานะนายจ้าง/บริษัท ฉันสามารถแนะนำขั้นตอนเพิ่มเติม หรือตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานให้ได้เช่นกันครับ/ค่ะ

    การทำ MOU จัดหาพนักงาน เป็นกระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับประเทศต้นทาง (เช่น เมียนมา ลาว กัมพูชา) ซึ่งจะช่วยให้การจ้างงานแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม 

MOU (Memorandum of Understanding) คืออะไร? 

  • MOU คือ บันทึกความเข้าใจหรือข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่าย ซึ่งในที่นี้คือรัฐบาลไทยและรัฐบาลของประเทศต้นทางของแรงงานต่างด้าว 
  • วัตถุประสงค์หลักคือการกำหนดกรอบความร่วมมือในการนำเข้าและส่งออกแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 
  • การทำ MOU ช่วยให้การนำเข้าแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจน และมีการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการของแรงงานอย่างเหมาะสม 

ขั้นตอนการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU คร่าวๆ

  1. 1. นายจ้างยื่นขอโควตาและหนังสือขอนำเข้า (Demand Letter)

นายจ้างยื่นคำร้องที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร

  1. 2. ส่งเอกสารไปยังสถานทูตประเทศต้นทาง

เอกสารจะถูกส่งไปยังสถานทูตของประเทศต้นทางในประเทศไทย

  1. 3. จัดทำบัญชีรายชื่อ (Name List)

ประเทศต้นทางจะจัดทำบัญชีรายชื่อแรงงานที่ได้รับการคัดเลือก

  1. 4. นำแรงงานเดินทางเข้าประเทศไทย

แรงงานเดินทางเข้าประเทศไทย ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)

  1. 5. ตรวจลงตรา (Visa) และอบรม

แรงงานจะได้รับการตรวจลงตราวีซ่าและเข้ารับการอบรมที่ศูนย์แรกรับเข้าทำงาน

  1. 6. เข้าทำงาน

แรงงานเดินทางไปยังสถานประกอบการและเริ่มทำงาน

ข้อดีของการทำ MOU

  • ถูกต้องตามกฎหมาย

การนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ

  • คุ้มครองสิทธิและสวัสดิการ

แรงงานต่างด้าวจะได้รับการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการตามกฎหมายแรงงาน

  • ลดความเสี่ยง

ลดความเสี่ยงในการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย หรือแรงงานที่ไม่มีคุณภาพ

  • กระบวนการชัดเจน

มีขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นระบบในการนำเข้าและดูแลแรงงานต่างด้าว

ข้อควรพิจารณา

  • ค่าใช้จ่าย

การนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งค่าธรรมเนียม ค่าดำเนินการ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

  • ระยะเวลา

กระบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU อาจใช้เวลาพอสมควร

สำหรับนายจ้าง

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน 
  • แผนที่สถานที่ทำงาน
  • หลักฐานแสดงความจำเป็นในการจ้างคนต่างด้าว
  • รูปถ่ายสถานที่ทำงานและที่พัก
  • หนังสือรับรองบริษัท (หากเป็นนิติบุคคล อายุไม่เกิน 3 เดือน)
  • สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง (หากเป็นกิจการก่อสร้าง)
  • สัญญาเช่า (หากเป็นร้านค้า)
  • รายละเอียดความต้องการสวัสดิการต่าง ๆ

สำหรับลูกจ้างหรือแรงงานต่างด้าว

  • สำเนาบัตรประชาชน (ถ้ามี)
  • สำเนาทะเบียนบ้านประเทศต้นทางของแรงงาน (ถ้ามี)
  • รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง หรือ 2 นิ้ว
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริงหรือสำเนา (ถ้ามี)
  • ใบอนุญาติทำงาน (Work Permit) ตัวจริงหรือสำเนา (ถ้ามี)

นอกจากนี้ ในกรณีที่แรงงานต่างด้าวไม่มีเอกสารอะไรเลย จำเป็นต้องเข้ารับการสอบถามประวัติเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น ชื่อ, ที่อยู่, อายุ, สัญชาติ เป็นต้น เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของแรงงานต่างด้าว

Visitors: 16,084